รับมือกับ Quarter-life Crisis ฝ่าวิกฤตชีวิตวัยรุ่น (มันเศร้าเพราะเราไปไม่ถึงไหน) | Sammakorn
เป็นวัยรุ่นยุคนี้ทำไมมันยากนัก แค่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เพื่อจะลุกไปทำสิ่งที่ต้องทำก็ยากแล้ว อะไรที่รัก อนาคตที่อยากจะเป็นไม่ต้องพูดถึง แค่เอาตัวให้รอดจากความกดดันในแต่ละวันก็เหนื่อยแล้ว ความรู้สึกในหัวมันหนักอึ้ง รู้สึกชาทุกครั้งที่ต้องคิดถึงอนาคตตัวเอง นี่เราเป็นอะไรกัน??? หรือแท้จริงแล้วเราเป็นคนไม่เอาไหน!
ถ้าคุณมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ เราบอกได้เลยว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยว เพราะยังมีเพื่อนวัยเดียวกันที่ตกอยู่ในความรู้สึกนี้เช่นกัน เพียงแค่ไม่ค่อยมีใครแชร์เรื่องราวสิ้นหวังอวดกันเท่าไหร่ ความรู้สึกแบบนี้ที่ทำให้คุณรู้สึกอยู่ไกลความมั่นคง เขาเรียกกันว่า Quarter-Life Crisis หรือถ้าพูดกันง่ายๆ ก็ตกอยู่ใน “วิกฤตชีวิตวัยรุ่น” ซึ่งมันมักเกิดกับคนส่วนใหญ่เกือบทุกคนในช่วงอายุ 20s – 30s แต่ก็อาจจะมีแรนดอมนิดหน่อย ว่าใครจะเข้าวังวนวิกฤตนี้ช้าเร็วต่างกันตามทางที่เลือกเดิน หรือต้นทุนชีวิต
วิกฤตวัยรุ่น มันเกิดขึ้นได้เป็นไปตามธรรมชาติจังหวะของการเติบโต เราหมดช่วงเวลาเด็กลงแล้ว เรียนจบแล้ว ก็ต้องหางานหาการทำ บางคนเริ่มเร็วก็ก้าวข้ามไปเร็ว แต่บางคนเดินตามจังหวะที่ต่างไปก็อาจจะเจอกับวิกฤตนี้ในช่วงยี่สิบกลางๆ แล้วถ้ายิ่งคุณไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างตั้งใจ บอกได้เลยว่าวิกฤตนี้จะทำคุณท้อ ไม่ก็ถอยไปเลย
ตามปรัชญาหลักการการใช้ชีวิต กฎ Quarter-Life Crisis จะถูกแบ่งออก 4 stage ใหญ่ๆ จำลองภาพเหมือนคุณวิ่งจากทุ่งลาเวนเดอร์ แล้วหลุดเข้ามาในป่าทึบโดยไม่รู้ตัว สิ่งแรกที่คุณจะพบ คือ หลุมพรางกับดัก (trapped) เป็น
Stage 1 ที่จับคุณเข้าวิกฤตนี้ ช่วงเวลานึงจากที่เคยสนุกกับชีวิต อยู่ดีๆ พอเริ่มคิดได้ คุณจะตกหลุมพรางหลุมใหญ่ที่ตัวเอง หรือ คนรอบข้างสร้างไว้ ไม่เรื่องหน้าที่การงาน ก็ความสัมพันธ์นี่แหละ หรือถ้าแจ็คพ็อตหน่อยอาจมาสองเรื่องพร้อมกันในช่วงเวลาเดียว
เพราะคุณเข้าสู่ช่วงวัยแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่คุณเองที่เปลี่ยน ก็คนรอบข้าง หรือคนในความสัมพันธ์ของคุณที่เปลี่ยนไป พบทางตันของงานที่ทำอยู่ เจอทางเลือกหรือโอกาสที่มาให้สับสน เลิกรากับแฟนที่คบกันมา เพื่อนสนิทเริ่มห่าง รับรู้ถึงปัญหาของครอบครัวที่ปิดบังคุณไว้ และเรื่องชวนปวดหัวอีกมากมาย และสองเรื่องหลักๆ อย่าง งาน และ ความรัก นี่แหละที่จะฉุดคุณไว้จนเดินต่อไม่ไหว
Stage ที่ 2 คือ Struggling ติดอยู่กับปัญหา มันจะเป็นช่วงของวังวนที่พร้อมถาโถมทุกปัญหาเข้ามาซัดคุณอย่างแรง ในช่วงนี้ไม่แปลกหากคุณจะรู้สึกโดดเดี่ยว สับสน เพราะคุณจะอยู่กับปัญหาที่คุณกำลังติดกับอย่างเต็มตัว คุณจะมีคำถามมาถามตัวเองมากมายไม่จบไม่สิ้น และวนแบบนี้ไปอีกพักใหญ่ เพราะฉะนั้นหลายคนจะเริ่มทบทวน คิดกับตัวเองมากมายเพื่อหาทางไปต่อ
Stage 3 Overcoming ถ้าคุณเป็นนักสู้หน่อย คุณจะอยากเอาชนะความกลัว ความกังวลให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะคุณคิดทบทวนมาหมดแล้ว และเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์และความต้องการที่จะเดินต่อของตัวเอง และถ้าแรงยังไม่หมด คุณจะเริ่มมีความหวัง ว่าแสงสว่างจะเข้ามาหาคุณในช่วงเวลาอันใกล้ ในช่วงนี้คุณจะเริ่มตระหนักรู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อกับชีวิตหลังจากนี้ไป ต่อให้ยังไม่แน่ใจ แต่จะเริ่มตั้งสมมติฐานให้กับชีวิตของตัวเอง
Stage 4 มาถึงแล้ว Solution แน่นอนไม่ว่าวิกฤตไหนย่อมมีทางออกเสมอ เพียงแค่ทุกทางออกอาจมีปัญหารออยู่ ในด่านสุดท้ายหลังจากที่คุณติดอยู่กับภวังค์ของวิกฤตวัยรุ่นช่วงปลายมาอย่างยาวนาน คุณจะเริ่มเห็นทางแยก และบีบให้ตัวเองเลือกทางเดินต่อ ซึ่งแน่นอนเมื่อมาถึงจุดนี้คุณจะเริ่มเข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไร อยากจะลองทำอะไร คุณจะมีปัจจัยชีวิตเข้ามาบีบคั้นให้ตัวเองต้องไปต่อ เรื่องที่เคยรู้สึกแย่ คุณจะเริ่มเหนื่อยที่จะจมดิ่ง แต่คุณจะวิ่งหาตัวช่วยต่างๆ ไม่ว่าจะหาคนที่ไว้ใจในการขอคำปรึกษา เก็บความปวดหัวไว้กับตัวเองไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากคนอื่น หรือวิ่งไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งทางออกเหล่านี้มันจะนำทางคุณไปสู่จุดเริ่มต้นของความเป็นผู้ใหญ่ คุณจะกล้าที่จะลงมือทำอะไรๆ มากขึ้น และเริ่มมีเหตุมีผลมากกว่าใช้อารมณ์
แม้ Quarter-Life Crisis จะทำคุณดิ่งๆ ดาวน์ๆ แต่เชื่อเถอะว่าฟ้าหลังฝนย่อมมีจังหวะให้คุณได้เห็นแสงอยู่บ้าง มันต้องมีวันของเรา แม้ทางข้างหน้าจะมีพายุลูกใหม่รออยู่ แต่นั่นมันก็หมายถึงคุณกำลังเติบโต และเรียนรู้โลกความเป็นจริง
แล้วถ้าตอนนี้คุณยังอยู่จุดเริ่มต้นของ Quarter-Life Crisis แล้วรู้สึกไม่โอเค แย่กับตัวเองไปหมด จะทำอย่างไรให้เราหลุดพ้นจากฝันร้ายครั้งนี้เสียที ทางออกมีอยู่มากมาย แต่สิ่งแรกที่คุณต้องทำนั่นคือ การเปลี่ยนวิธีคิด และ วิธีรับมือ ถ้ารู้สึกเหนื่อย ก็ลองพักจากความคิดเหล่านี้ หาสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ ลองทำดูบ้าง เผื่อจะเจอโอกาสตกหลุมรักครั้งใหม่ ซึ่งอาจจะสร้างงานสร้างอาชีพให้คุณก็ได้
#วิธีรับมือกับความรู้สึกแย่ๆ Quarter-Life Crisis
- ออกไปใช้ชีวิต อย่าจมอยู่กับความคิดแล้วขังตัวเองไว้ในห้องแคบๆ
- ไปเที่ยว อยากไปไหนไป อยากกินอะไรกิน เพราะตอนนี้คุณยังมีแรงผจญภัย สู้ต่อไป ความสนุกยังรอคุณอีกเยอะ
- วันนี้แย่ไม่เป็นไร กอดตัวเองเยอะๆ เพราะท้ายที่สุด เรื่องแย่วันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมามันก็จะค่อยๆ จางลงในความรู้สึก แล้วค่อยหาวิธีจัดการตอนที่อารมณ์นิ่งแล้ว
- พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้ร่างกายฟิตอยู่เสมอ เพราะไม่มีใครรู้ว่าโอกาสดีๆ จะมาเมื่อไหร่ ถ้าร่างกายคุณพร้อม จังหวะมาก็ลุยเลย
- เรื่องรักถ้ามันแย่นักก็ไม่ต้องมี กลับมารักตัวเองให้เป็น เพราะสิ่งนี้ยากกว่ารักคนอื่นเสียอีก ถ้าคุณรักตัวเองเป็นเมื่อไหร่ รักจะเข้ามาอีกแน่นอน
- อยู่กับครอบครัวเยอะๆ คุยกันเยอะๆ บางทีคนในครอบครัวนี่แหละที่รู้จักเราดีที่สุด เรื่องวัยเด็กของเรา อาจจะเป็นทางออกของหลุมดำนี้ก็ได้
- อย่าจดจ่อกับโลกโซเชียลมากนัก เพราะไม่มีใครโชว์ด้านแย่ๆ วันโทรมๆ หรอก ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละคนชีวิตดีขนาดนั้นจริงมั้ย ให้ออกไปเดินข้างนอก แล้วคุณจะรู้ว่าโลกจริงไม่ได้สวยเหมือนในโซเชียลเลย
- เงินตอนนี้มีเท่าไหร่อย่าใช้หมด แบ่งเก็บบ้าง เพราะวันนึงคุณจะเข้าใจว่าทำไมเราต้องเริ่มเก็บออม
แล้วเมื่อไหร่ที่คุณผ่าน Quarter-Life Crisis วิกฤตชีวิตวัยรุ่น เดี๋ยวเราจะเจอกันในภาคผู้ใหญ่เต็มตัวที่บันเทิงกว่าเดิม
สัมมากร
บ้านที่หลับสบาย ไร้กังวล
Have a good sleep
แอดไลน์สัมมากร เพื่อรับข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม
คลิก : https://bit.ly/3NB2Irs
#อยากให้รู้ว่าสัมมากรขายบ้าน #SAMMAKORN #บ้าน #สัมมากร #บ้านที่หลับสบาย #quarterlifecrisis #วิกฤตก่อนวัยกลางคน #กังวลอนาคต